

พระกริ่งเนื้อทองคำ
- ขนาด 2.5 ซม

พระกริ่งเนื้อเงิน
- ขนาด 3.5 ซม

พระกริ่งเนื้อนวโลหะ
- ขนาด 3.5 ซม

พระกริ่งเนื้อโลหะผสมรมดำ
- ขนาด 3.5 นิ้ว

พระบูชาเนื้อโลหะผสมลงรัก
ปิดทอง
- ขนาด 9 นิ้ว
พระกริ่งประสานมิตร ประทานทรัพย์ เจริญยศ
สุดยอดพระเกจิผู้ทรงวิทยาอาคมเข้มขลังสูงส่งแห่งยุคปลุกเสก
ความหมาย “พระกริ่งประสานมิตร ประทานทรัพย์ เจริญยศ” ตามหลักเลขศาสตร์ของอายตนะ มีความหมายว่า ความเป็นผู้นำที่มีอำนาจบารมี คุ้มครองป้องกันภัยแก่บุคคลทั่วไปได้ ด้วยความมีเมตตาธรรม เป็นที่รักเคารพยำเกรง จะนำพาชีวิตบริวารให้ประสบความสำเร็จ เจริญก้าวหน้าทั้งทรัพย์สมบัติและลาภยศสมบัติ
พระบูชา “ประทานทรัพย์เจริญยศ” ได้รับความเมตตาจากพระเกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตสูงส่งที่สุดในปัจจุบันของแผ่นดิน ทำพิธีพุทธาภิเษกประจุพุทธคุณทางด้านค้าขาย ร่ำรวยเงินทอง และเมตามหานิยม ผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดูสนับสนุนให้ หน้าที่การงานก้าวหน้า

ผู้ออกแบบพระบูชา “ประทานทรัพย์เจริญยศ” คือ อาจารย์พุทธา กาบแก้ว ท่านเคยทำงานพุทธศิลป์ ที่วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย เมื่อปี 2542-46 จากนั้นออกมาช่วยสร้างวิหารหลังใหม่ของ วัดร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยออกแบบผสมผสานแนวศิลป์ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนีและอาจารย์เฉลิมชัย รวมกับ เอกลักษณ์ของตนเอง ออกมาเป็นงานประติมากรรม และงานจิตรกรรมฝาผนังที่มีศิลปะสวยงามเฉดสีน้ำเงิน แปลกตา เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวปรัชญาพุทธศิลป์แห่งใหม่ที่โด่งดังมากในยุคปัจจุบัน ผู้ที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมจะมีความรู้สึกสงบ อิ่มใจ มีจิตใจแน่วแน่ที่จะรักษาศีล ก่อให้เกิดสมาธิและปัญญา
ปลุกเสกโดย

หลวงปู่แสน ปสนฺโน
วัดบ้านหนองจิก
พระเกจิดังทางภาคอีสานอายุ 112 ปี สมญา “เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย ใกล้ชายแดนเขมร” แห่งวัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ ระหว่างบวชเป็นเณร และบวชเป็นพระที่วัดบ้านโพรง ได้ศึกษาเรียนตำราพระเวช (ศาสตร์การรักษาคน) รวมทั้งเรียนภาษาขอม ภาษาบาลี เรียนรู้วิชาอาคมกับหลวงพ่อมุมวัดปราสาทเยอใต้ เกจิชื่อดังในสมัยนั้น หลวงปู่มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐานจนมีพลังจิตที่กล้าแข็ง ทำให้คาถาอาคม ด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี มีความเข้มขลังมาตั้งแต่ยังหนุ่ม ต่อมาอายุ 24 ปี สึกออกมาดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าและช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน แล้วมีโอกาสเดินทางไปศึกษาวิชาหมอโบราณรักษาคนและวิชาอาคมเพิ่มเติมกับอาจารย์ชาวเขมรเก่งๆ ที่พระตะบอง เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ หลวงปู่กลับมาบวชอีกครั้งตอนอายุ 90 ปีที่วัดกุดเสล่า ต่อมาอายุ 97 ปี ชาวบ้านนิมนต์หลวงปู่กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิก จนถึงทุกวันนี้ วัตถุมงคลของหลวงปู่แสนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลวงปู่ลงอักขระครบถ้วนตามหลักวิชาปลุกเสกด้วยพลังจิตที่สูงส่งมาก คาถาที่สวดเป็นภาษาโบราณช่วยเร่งให้มีลาภเร็วขึ้น ลูกศิษย์หลายๆ คนมีประสบการณ์เรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายรุ่งเรือง เจ้านายรักใคร่เมตตาสนับสนุน

หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ
ต.คลองคูณ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร
“เทพเจ้าแห่งภาคกลางตอนบน” พระเกจิอาจารย์อายุ 84 ปี บิดาท่านชื่อ หมึก เป็นจอมอาคมขมังเวทย์และหมอแผนโบราณเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรมาก จากการเห็นโยมพ่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ท่านมีความเมตตาอย่างมาก เมื่ออายุย่าง 21 ปี ท่านบวชที่วัดคลองคูณ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยยิ่งนัก รวมทั้งศึกษาภาษาขอมจนแตกฉาน หลังจากบวชได้ 3 พรรษาก็ได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองคูณ วัตถุมงคลของหลวงพ่อหวั่น เริ่มดังจากความขลังมากๆของตะกรุดต่างๆ จากเคล็ดลับวิชาจากโยมพ่อ จากตำราเก่าแก่เรื่องการลงยันต์เมตตามหานิยมของหลวงปู่จันทร์เกจิดังในสมัยนั้น วิชาการทำตะกรุดจากของหลวงพ่อโพธิ์ วัดคลองหมาเน่า พระมอญที่ปทุมธานีเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอาคมแกร่งกล้าเชี่ยวชาญการทำตะกรุดคงกระพัน เรียนคาถาด้านเมตตามหานิยมกับท่านพระอาจารย์รอด เกจิแห่งวัดคลองคูณ ดังนั้น วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกจึงมีฤทธิ์อำนาจ ทางพุทธคุณในด้านต่างๆ จึงเกิดอภินิหารกับญาติโยมในด้านเมตตาโชคลาภ ค้าขายร่ำรวยรวดเร็ว แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ ตลอดจนคงกระพันชาตรี เป็นที่ชื่นชอบของทหารตำรวจมากมาย

พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ
วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
พระเกจิอาจารย์ที่มีความเมตตาสูงอายุ 91 ปี ท่านบวชตอนอายุ 20 ปี ท่านศึกษาวิชาอาคมต่างๆ กับ “ตาเลี่ยม” ฆราวาสที่เชี่ยวชาญ ด้านวิปัสสนา และวิชาอาคม รวมทั้งศึกษาสรรพวิชาต่างๆจากผู้เรืองพระเวทย์วิทยาคมอีกหลายท่าน ท่านเองเป็นสหธรรมมิก(เพื่อน) กับ “พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” ตอนที่พระอาจารย์ทิม สร้างพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี2497 ที่โด่งดัง สุดๆ พ่อท่านเขียวเป็นผู้คลุกมวลสารผสมว่านและร่วมอยู่ในพิธีกรรมปลุกเสกอีกหลายวาระ หลังจากพระอาจารย์ ทิมมรณภาพ พ่อท่านเขียวได้ปลุกเสกหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 2524 ที่โด่งดังจากผู้คนมีประสบการณ์แคล้วคลาด ปลอดภัย ต่อมาท่านมาจำวัดที่วัดห้วยเงาะ ท่านมีวิชาที่โด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทย คือ วิชารับทรัพย์เพิ่มทรัพย์ วัตถุมงคล และผ้ายันต์รับทรัพย์เพิ่มทรัพย์ สร้างประสบการณ์ให้หลายๆคน ทำการค้ารุ่งเรืองในเวลาไม่กี่เดือน ท่านตั้งปฏิปทามั่นที่จะอยู่เป็นขวัญกำลังใจให้กับ ทหารหาญ และพลเรือนในพื้นที่อันตรายอย่างจ.ปัตตานีต่อไป ชาวไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่คล้องวัตถุมงคลต่างๆของท่าน มีประสบการณ์ ยิงไม่ออก ยิงไม่เข้า ยิงไม่ถูก หรือโดนระเบิดไม่เป็นไรและยังไม่มีใครที่คล้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบเลย แม้แต่คนเดียว จึงเป็นที่มาของ เทพเจ้าแห่งชายแดนใต้

พระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข
เจ้าอาวาสวัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ปัจจุบันท่าน อายุ 58 ปี ท่านบวชเป็นสามเณรในปี 2519 ที่วัดปัจจันตาราม จ.สมุทรสาคร โดยมี หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาบวชเป็นพระเมื่อพ.ศ. 2526 และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ เมื่อ พ.ศ.2547 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 รัชกาลที่ 10 สมัยที่พระองค์ท่านเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ท่านเคยเสด็จมาถวาย ผ้าพระกฐินแด่คณะสงฆ์ วัดประดู่ฯ ท่านพระมหาสุรศักดิ์
เรียนสักยันต์และวิชาคงกระพันเป็นภาษาขอมจาก สุดยอดเกจิอาจารย์หลวงตารวม หลังแห้ง, วิชาอาคมต่างๆจากครูนาค จ.กาญจนบุรี, เรียนวิชาทำตะกรุดต่างๆ และวิชาไหมเบญจรงค์ 5 สี จากหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม, วิชาเป่าทอง จากหลวงปู่พิชัย วัดเขาหงส์ ลพบุรี, วิชานะปัดตลอด จากหลวงปู่จ่าง วัดเขื่อนเพชร เพชรบุรี, วิชาทำเบี้ยแก้จาก หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม, วิชาทำสีผึ้งน้ำมันมหาเสน่ห์ จากอาจารย์เสน่ห์ บ้านบางกล้วย ราชบุรี, วิชากัมมัฎฐานจาก หลวงปู่คำ วัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่และหลวงพ่อตา วัดเขาแก้ว สระบุรี
.png)
พระครูวิศิษฎ์พิทยาคม (หลวงพ่อวราห์ ปุญฺญวโร)
วัดโพธิทอง กรุงเทพมหานคร
ท่านเกิดในครอบครัวมุสลิม บุตรชายต้องเป็นอิสลาม โอกาสที่จะบวชเป็นพระในพุทธศาสนาทำไม่ได้ เมื่อปี พ.ศ.2514 ตอนเยาว์วัยท่านป่วยหนักเรื้อรังจนหมดสติ ก่อนจะสิ้นสติเกิดนิมิตรเห็นพญานาคที่บวชเป็นภิกษุนามว่า “พญามุจรินท์นาคราช” แจ้งว่าผูกพันกับเด็กชายวราห์หลายภพหลายชาติ ภพนี้หากเจ้านับถือศาสนาพุทธ อาการเจ็บป่วยรุนแรงจะหายได้ ถ้าไม่นับถือพุทธเจ้าต้องเสียชีวิตแน่นอน ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าพ่อแม่อีก จึงตอบตกลงว่าจะนับถือพุทธหลังจากนั้นอาการป่วยก็ค่อยๆหายอย่างรวดเร็ว พอท่านโตเป็นหนุ่มพระพญามุจรินท์แจ้งในจิตนิมิตรว่า ชีวิตเป็นฆาราวาสหมดสิ้นแล้ว ขอให้ไปบวชเป็นพระเพื่อต่อ ชีวิตหากไม่ทำบิดาจะเสียชีวิตแทนพระอาจารย์ทำไม่ได้ เพราะเป็นอิสลาม ในที่สุดบิดาก็เสียชีวิตจริงๆท่านเสียใจมาก หลังพิธีศพของบิดา ท่านตัดสินใจบวชเป็นพระ ณ วัดโพธิทอง หลังบวชได้ออกธุดงค์ไปเหนือสุดจรดใต้สุด ระหว่างธุดงค์ พระภิกษุพญามุจรินท์ จะมาสอนธรรมะและสมาธิทางนิมิตร, เรียนวิชาคาถาอาคมกับหลวงปู่เขียน วัดตะคล้อ จ.นครสวรรค์และหลวงปู่ใหญ่ เกจิดังภาคอีสาน เป็นต้น เมื่อร่ำเรียนวิชาจนอาคมกล้าแกร่งจึงกลับมาอยู่วัดโพธิทอง
ในปี 2535 ตอนนั่งสมาธิท่านนิมิตรเห็นพญาครุฑ 2 องค์หลายครั้ง พญาครุฑ 2 องค์บอกว่าอยู่ที่วัดโพธิทองมานาน ต้องการสร้างทานบารมีช่วยเหลือมนุษย์ ผ่านวัตถุมงคลที่ผู้คล้องเช่าบูชามาจากวัด พระอาจารย์จึงริเริ่มสร้างเหรียญพญาครุฑ โดยได้ขอพระบรมราชานุญาตจัดสร้างมาตั้งแต่ปี 2537 พญาครุฑทุกรุ่นที่สร้างมีอภินิหารให้กับผู้เช่าบูชาจนเป็นที่เรื่องลือ