ถึงศิษย์รัก… อ.เสงี่ยม วิไลนุวัฒน์
หลังจากเราอ่านเรื่องราวของอาจารย์สาวๆ ไปหลายท่าน อาทิตย์นี้เราจะมาพบกับ อีกหนึ่งอาจารย์หนุ่ม ผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในใจของลูกศิษย์หลายๆ คน ความเมตตาของอาจารย์ไม่ใช่แค่ในฐานะ ครูต่อลูกศิษย์ แต่ยังเป็นฐานะ รุ่นพี่สู่รุ่นน้อง
เรามาติดตามเรื่องราวความประทับใจจาก อาจารย์เสงี่ยม วิไลนุวัฒน์ หรือที่ทุกคนคุ้นปากกันในนาม “ป๋าเหงี่ยม” กันได้เลยค่ะ
อาจารย์เสงี่ยม วิไลนุวัฒน์
หลายท่านอาจพอทราบกันมาอยู่แล้ว ว่าอาจารย์เสงี่ยมนอกจาก จะเป็นครูที่เก่งทางด้าน วิทยาศาสตร์ อาจารย์ยังเริ่มต้นจากการเป็นศิษย์เก่า รุ่นที่ 2 ของพวกเราอีกด้วย ครูเข้ามาเรียนที่ โรงเรียนสาธิตแห่งนี้ในปี พ.ศ. 2496 และ จบ ม.ศ. 8 ในปี 2503 หลังจากนั้นได้เข้าศึกษาวิทยาลัยพละ พอหลังจากจบ ครูได้ทำงานแถวมักกะสัน จนตอนนั้นได้ข่าวว่ามีตำแหน่ง ครูวิทยาศาสตร์ว่างจึงย้ายมา และเริ่มเข้าสอนในปี พ.ศ. 2513 โดยสอนวิชาเคมี ระดับชั้น ม.8 และ สอนวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไปในระดับชั้น ม.1 รวมทั้งรับหน้าที่เป็น ผู้ช่วยฝ่ายปกครอง จนกระทั่งเกษียณอายุในปี พ.ศ. 2544 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 31 ปี หลังเกษียณตอนนี้ก็ร่วม 20 ปีแล้ว อาจารย์เสงี่ยมยังเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส ว่ากิจกรรมยามว่าง อาจารย์ก็ดูแลต้นไม้ มีความสุข มีสุขภาพที่ดีอยู่
ความประทับใจเกี่ยวกับโรงเรียน
ด้วยความที่อาจารย์อยู่ โรงเรียนแห่งนี้มานานโรงเรียนแห่งนี้เป็นมากกว่าที่ทำงาน โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่งสมัยก่อนนั้นโรงเรียนของเรายังมีครูและนักเรียนจำนวนไม่มากนัก ทำให้มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ สายการเรียนก็ยังมีเพียงไม่กี่สาย โรงเรียนของเราในสมัยนั้นก็ยังรายล้อมไปด้วยทุ่งนาติดกับลำคลอง เมื่อโรงเรียนเลิกแล้วเด็กๆ ก็มักจะพากันไปโดดน้ำเล่นอยู่เป็นประจำ เมื่อนึกถึงสมัยนั้นแล้วก็ทำให้มีความสุข
ถึงแม้ว่าครูจะเป็นครูฝ่ายปกครองแต่เมื่อเวลาที่ลูกศิษย์มีปัญหาทุกครั้ง ครูมักจะบอกลูกศิษย์อยู่เสมอว่า “เมื่อมีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ให้คุยกับครูได้ทุกเรื่อง เสมือนรุ่นพี่คุยกับรุ่นน้องที่สามารถเปิดใจพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง”
วีรกรรมและความประทับใจเกี่ยวกับศิษย์
อาจารย์เล่าให้พวกเราฟังว่า ครูเป็นครูฝ่ายปกครองก็มักจะเจอเด็กมีปัญหาในหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งแรกเลยเวลาที่เรียกเด็กเข้ามาคุยที่ฝ่ายปกครองนั้น ครูจะให้เค้านั่งนิ่งๆ สงบจิตใจ จากที่ใจร้อนอยู่จะได้ใจเย็นขึ้น เรียกว่า เอาน้ำเย็นเข้าลูบ แล้วเมื่อเขาใจเย็นลงเขาก็จะสำนึกได้ด้วยตนเองและเริ่มที่จะกล่าวขอโทษในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป โดยที่เราไม่ได้พูดว่ากล่าวเขาสักคำ เมื่อเขาสำนึกแล้วครูเองก็พร้อมที่จะให้อภัยเช่นกัน อีกเรื่องที่พบบ่อยก็คือเรื่องการโดดเรียน ครูก็เข้าใจนะว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติของเด็กซึ่งพบได้ทุกโรงเรียน ทุกยุค ทุกสมัย ครูเองก็เคยทำเหมือนกันสมัยเป็นรุ่นพี่พวกเรานี่แหละ ก็ว่ากล่าวตักเตือนกันไป ก็ฟังบ้างไม่ฟังกันบ้างตามภาษาวัยรุ่น
“เราต้องเข้าใจในวัยรุ่น เราก็จะค่อยๆ ตักเตือนค่อยๆ สอนกันไป ให้เขาอยู่ในระเบียบ”
ความในใจ.. ถึงศิษย์รัก
ครูมีความภูมิใจทุกครั้งเมื่อได้กลับมายังโรงเรียนของเรา และดีใจเมื่อได้รับรู้ว่าลูกศิษย์ของครูนั้นหลายๆ คนมีหน้ามีตาในสังคม มีอาชีพที่ดี รู้สึกภูมิใจว่าเรือจ้างของครูนั้นพาลูกศิษย์ของเราไปถึงฝั่งฝัน สิ่งหนึ่งเลยที่ครูประทับใจในตัวเด็กสาธิตเราในทุกรุ่นนั้นก็คือ ความปรองดองรักใคร่กลมเกลียวทั้งในความเป็นเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้อง ครูรู้สึกนับถือในความผูกพันอันดีนี้อยากจะให้คงไว้ในทุกรุ่นทุกสมัย
ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ความทรงจำของอาจารย์ยังคงชัดเจนเสมอ สิ่งที่เราเห็นได้ชัด ในตัวอาจารย์เสงี่ยม คือความชัดเจน ที่แฝงไปด้วยความห่วงใย อาจารย์เป็นต้นแบบของการเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยความแตกต่างทางอายุไม่ได้ดูเป็นอุปสรรคในการที่จะพูดคุยกับนักเรียนเลย ทางสมาคมศิษย์เก่าสาธิต ประสานมิตร ต้องกราบขอบพระคุณ อาจารย์ เสงี่ยม วิไลนุวัฒน์ ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราว ความประทับใจเกี่ยวกับโรงเรียนของเรามา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ